ReadyPlanet.com
dot dot
dot
ค้นหาบทความ / Article Search

dot


The45thBIMS2024
WorkshopPhotography
UranusV-Reflection
Thainess Capital
Comme c’est bon
nawarat
IconM
THE THAI REAL ESTATE ASSOCIATION
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์
AREA
ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน
สมาคมการผังเมืองไทย
icons
Realist
Smart Living
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สมาคมธนาคารไทย
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง
ธนาคารแห่งประเทศไทย
TAT
ATTA
Tourism Council of Thailand (TCT)
The Royal Automobile Association of Thailand under Royal Patronage
The Thailand Automotive Institute (TAI)
MotorExpo2023
BIMS2023
MotorExpo2022
BIMS2022
Motor Show 2019
MotorExpo2020
MotorExpo2019
MotorExpo2018
Food4Change
มูลนิธิสุขภาพไทย
Thaicityfarm
Thai Green Market
Center Market
Sustainable Agriculture
Agri-nature Foundation
Sustainable Agriculture Foundation (Thailand)
สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กรมหม่อนไหม
กรมส่งเสริมอุสาหกรรม
Thai Textile
SACICT
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
มูลนิธิก้าวไกลในเอเชีย
IconM
IconM News : G+
Oknation-lumnamsiam
Tarot Life Coach


เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ร่วมจัดแปลอักษรส่งท้ายเครื่องยนต์ W12
เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ร่วมจัดแปลอักษรส่งท้ายเครื่องยนต์ W12
พร้อมจัดพิธีอำลาสุดยอดขุมพลังในตำนานอย่างเป็นทางการ
End of an era as final Bentley W12 engine hand-built in Crewe
 
(ครูว์ 23 กรกฎาคม 2567) เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ร่วมจัดแปลอักษรส่งท้ายการผลิตเครื่องยนต์รุ่น W12 พร้อมจัดพิธีอำลาสุดยอดขุมพลังสมรรถนะสูงลำดับสุดท้ายในตำนานอย่างเป็นทางการ ณ โรงงานเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เมืองครูว์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งจะถือเป็นบทสรุปในหน้าประวัติศาสตร์ของเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส พร้อมกับการสิ้นสุดสายการผลิตอัครยนตรกรรมรุ่น Bentayga, Continental GT และ Flying Spur ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์รุ่น W12
 
เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ร่วมจัดแปลอักษรส่งท้ายเครื่องยนต์ W12 พร้อมจัดพิธีอำลาสุดยอดขุมพลังในตำนานอย่างเป็นทางการ

• เฉลิมฉลอง 2 ทศวรรษเครื่องยนต์ W12 ขุมพลังไอคอนนิกของเบนท์ลีย์ ณ โรงงาน เมืองครูว์
• เครื่องยนต์ W12 มากกว่า 100,000 เครื่องประกอบขึ้นด้วยมือในโรงงาน ประเทศอังกฤษ
• บันทึกหน้าสำคัญของเครื่องยนต์ขนาด 12 สูบแห่งยุคที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์
• การตัดสินใจครั้งสำคัญในการยุติการผลิตเป็นไปตามแนวทางของเบนท์ลีย์ในการเป็นผู้นำด้านการผลิตอัครยนตรกรรมที่ยั่งยืน
• กลยุทธ์ Beyond100 ปูทางสู่อนาคตที่จะขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สมรรถนะสูงแบบ Ultra High Performance Hybrid 
• พนักงานเบนท์ลีย์ มอเตอร์สร่วมกันจัดงานเฉลิมฉลองส่งท้ายเครื่องยนต์ W12 ในตำนาน
 
เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ผลิตเครื่องยนต์รุ่น W12 มามากกว่า 100,000 เครื่องนับตั้งแต่การเปิดตัวเครื่องยนต์รุ่นดังกล่าวในรุ่น Continental GT เจเนอเรชันแรก ในปี 2546 ซึ่งการตัดสินใจครั้งสำคัญในการยุติการผลิตเครื่องยนต์รุ่น W12 เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ Beyond100 ที่ปูทางให้เบนท์ลีย์ มอเตอร์สเป็นผู้นำด้านการผลิตอัครยนตรกรรมที่ยั่งยืนของโลก

โดยเพื่อการส่งท้ายเครื่องยนต์ระดับไอคอนนิก เบนท์ลีย์ มอเตอร์สได้มีการจัดงานเลี้ยงให้กับทีมนักวิจัยและทีมประกอบเครื่องยนต์รุ่น W12 ณ Bentley’s Heritage Garage ในเมืองครูว์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งแขกผู้ร่วมงานได้มารวมตัวกันเพื่อแปลอักษรเป็นรูป ‘W12’ เพื่อถ่ายภาพเป็นที่ระลึกใน Pyms Lane Plaza สำหรับทีมนักวิจัยและทีมประกอบยังได้รับของที่ระลึกเป็นลูกสูบเครื่องยนต์รุ่น W12 เพื่อเป็นการรำลึกถึงช่วงเวลาที่สำคัญนี้

Andreas Lehe หนึ่งในคณะกรรมการฝ่ายผลิต เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส กล่าวว่า
 
“เครื่องยนต์รุ่น W12 มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ของเบนท์ลีย์ จึงถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เฉลิมฉลองประวัติศาสตร์หน้าสำคัญนี้ร่วมกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งการเปิดตัวเครื่องยนต์รุ่น W12 ได้พลิกโฉมหน้าของเบนท์ลีย์ในชั่วข้ามคืน เราจะจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ในฐานะ Game Changer อย่างแท้จริง พร้อมความรู้สึกภาคภูมิใจในการออกแบบ พัฒนา และผลิตเครื่องยนต์ระดับไอคอนนิกของประเทศอังกฤษ”

เครื่องยนต์รุ่น W12 เทอร์โบคู่ความจุ 6.0 ลิตรที่ถือเป็นเครื่องยนต์ขนาด 12 สูบที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุคปัจจุบันจะถูกแทนที่ด้วยขุมพลังที่เน้นสมรรถนะรุ่นใหม่เพื่อเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ของเบนท์ลีย์
 
สำหรับเครื่องยนต์แบบ Ultra High Performance Hybrid ประสิทธิภาพสูงจะทำงานร่วมกับเครื่องยนต์สันดาปรุ่น V8 อันทรงพลังและมีเทคโนโลยีแบตเตอรี่ชั้นสูง ซึ่ง 'การชาร์จด้วยไฟฟ้า' จะใช้ระบบไฮบริดที่ต่อยอดจากระบบเครื่องยนต์แบบเบนซิน-ไฟฟ้าที่มีอยู่แล้วของเบนท์ลีย์

เครื่องยนต์แบบ Ultra High Performance Hybrid กับความสามารถในการผลิตพละกำลังที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาจะขับเคลื่อนซูเปอร์คาร์รุ่นใหม่ที่มีไดนามิก พร้อมกับการตอบสนองที่ดีเยี่ยมและประสิทธิภาพในการขับขี่
 
โดยอัครยนตรกรรมทุกรุ่นจะมาพร้อมกับระบบส่งกำลังไฟฟ้าใหม่ที่สามารถผลิตพละกำลังมากกว่าเครื่องยนต์รุ่น W12 และมีอัตรการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (WLTP) ที่ต่ำเพียง 50 กรัม ต่อ กิโลเมตร

Dr. Matthias Rabe หนึ่งในคณะกรรมการฝ่ายวิจัยและพัฒนา เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส กล่าวเสริมว่า
 
“เครื่องยนต์ W12 ได้ขับเคลื่อนเบนท์ลีย์ไปข้างหน้าได้อย่างยอดเยี่ยม และจะกลายเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่สำคัญที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์ของเรา วันนี้ถือเป็นการสิ้นสุดเส้นทางการพัฒนาตลอดหลายปีที่ผ่านมาที่ซึ่งเพื่อนร่วมงานฝ่ายวิจัยและพัฒนา และฝ่ายผลิตของเราควรภาคภูมิใจ ทั้งในส่วนเรื่องการวางแนวความคิด รวมถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในเรื่องของการเพิ่มพละกำลังและประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็พัฒนาทั้งในด้านการปล่อยไอเสียและการปรับแต่งให้มีสมรรถนะที่ดียิ่งขึ้น”

20 ปีแห่งความเป็นเลิศทางวิศวกรรม
เครื่องยนต์รุ่น W12 รังสรรค์ขึ้นด้วยการผสมผสานระหว่างความประณีตและพละกำลังของขุมพลังขนาดความจุ 12 กระบอกสูบในขนาดที่พอเหมาะโดยมีพื้นฐานมาจากเครื่องยนต์รุ่น V6 แนวตั้ง 2 เครื่องที่ใช้เพลาข้อเหวี่ยงร่วมกัน เครื่องยนต์รุ่น W12 จึงมีขนาดที่กะทัดรัดกว่าเครื่องยนต์รุ่น V12 ทั่วไปถึง 24% เข้ากับเส้นสายที่บึกบึนของ Continental GT ที่เปิดตัวในปี 2546

ระบบดูดอากาศ ระบบไอเสีย ระบบเทอร์โบชาร์จ และระบบอินเตอร์คูลเลอร์ใหม่ที่ได้รับการพัฒนาโดยวิศวกรของเบนท์ลีย์ได้ทำให้ Continental GT รุ่นปี 2546 มีพละกำลังกว่า 552 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 479 ปอนด์-ฟุตที่รอบเครื่อง 1,600 รอบต่อนาที ถึง 6,100 รอบต่อนาที Continental GT จึงมีแรงบิดมหาศาลที่ความเร็วรอบเครื่องยนต์ทุกระดับอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเบนท์ลีย์

การผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์ขนาดความจุ 12 กระบอกสูบ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และด้วยความเร็วสูงสุดเกือบ 330 กิโลเมตรต่อชั่วโมงร่วมกับรูปลักษณ์อันมีเสน่ห์ของ Continental GT พิสูจน์ให้เห็นถึงความนิยมไปทั่วโลก โดยได้เจาะตลาดใหม่และครองใจลูกค้ากลุ่มใหม่ ซึ่งประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 20 ปี

เครื่องยนต์รุ่น W12 แต่ละเครื่องประกอบขึ้นด้วยมือในเมืองครูว์ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้เวลากว่า 7 ชั่วโมง โดยต้องประกอบชิ้นส่วนแยกกันกว่า 2,600 ชิ้นอย่างพิถีพิถัน ลูกสูบและก้านสูบถูกจับเป็นคู่ที่สมดุลเพื่อให้เครื่องยนต์ที่ประกอบสำเร็จแล้วหมุนได้อย่างราบรื่นในระหว่างการทดสอบและส่งมอบพละกำลังที่น่าเหลือเชื่อ
 
เครื่องยนต์รุ่น W12 ที่ประกอบเสร็จสิ้นและผ่านการทดสอบการรั่วไหล การทดสอบความเย็น และการทดสอบการเผาไหม้ในอุณหภูมิสูงแล้วจะมอบสมรรถนะในการขับเคลื่อน Continental GT Speed จาก 0-100 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 3.6 วินาที และทำความเร็วได้ถึง 335 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง

เครื่องยนต์รุ่น W12 เจเนอเรชันที่ 2
การเปิดตัว Bentyaga ในปี 2558 ถือเป็นความสำเร็จของ Bentley W12 ซึ่งเป็นผลมาจากการออกแบบ พัฒนา และทดสอบเป็นเวลากว่า 3 ปี โดยมีเทอร์โบชาร์จเจอร์แบบทวินสโครลที่ให้การตอบสนองที่รวดเร็วยิ่งขึ้นและแรงบิดที่ฉับไว พร้อมด้วยระบบเชื้อเพลิงสองระบบที่แตกต่างกัน ที่จะมอบสมรรถนะและการปล่อยไอเสียที่ดีเยี่ยม
 
และสำหรับสมรรถนะแบบออฟโรดของ Bentayga เครื่องยนต์ได้รับการทดสอบให้ทำงานที่มุมเอียงสูงสุด 35 องศาในทุกทิศทาง พร้อมการปิดการทำงานของกระบอกสูบที่จะปิดการทำงานของกระบอกสูบทั้ง 6 สูบอย่างสมบูรณ์เพื่อประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิงที่ดียิ่งขึ้น เครื่องยนต์รุ่น W12 ใหม่ได้เข้ามาเป็นขุมพลังหลักในรุ่นก่อนหน้าทุกรุ่นอย่าง Bentayga, Continental GT, Continental GT Convertible และ Flying Spur

บันทึกความสำเร็จ
เบนท์ลีย์กับเครื่องยนต์รุ่น W12 ได้สร้างสถิติสำคัญๆ ไว้มากมายตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2550 Juha Kankkunen แชมป์โลกแรลลี่ 4 สมัยได้ทำลายสถิติความเร็วบนน้ำแข็งด้วยรุ่น Continental GT โดยทำความเร็วได้ 321.84 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมงบนผืนน้ำทะเลที่ใสสะอาดในอ่าว Bothnia
 
จากนั้นในปี 2554 เขาก็กลับมาอีกครั้งกับรุ่น Continental Supersports Convertible ที่มีพละกำลังกว่า 621 แรงม้า และทำความเร็วได้สูงถึง 330.69 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง 4 ปีต่อมาในปี 2558 นักแสดงอย่าง Idris Elba ก็ได้สร้างสถิติความเร็วใหม่ด้วยความเร็วกว่า 290.26 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมงที่ Pendine Sands ด้วยรุ่น Continental GT Speed

ในปี 2561 Rhys Millen แชมป์ 2 สมัยได้สร้างสถิติใหม่ในการแข่งขันรถยนต์ SUV ในรายการ Race to the Clouds ที่ Pikes Peak รัฐโคโลราโด โดยเขาขับ Bentayga W12 และทำเวลาในระยะทาง 19.98 กิโลเมตรได้สำเร็จภายในเวลาเพียง 10.49.9 วินาที โดยเฉลี่ยที่ 107.02 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง ซึ่งเร็วกว่าสถิติเดิมเกือบ 2 นาที
 
ในปี 2562 Millen กลับมาอีกครั้งกับรุ่น Continental GT Speed เครื่องยนต์รุ่น W12 และได้สร้างสถิติใหม่ในการแข่งขัน Pikes Peak Production Car โดยทำเวลาได้ 10 นาที 18.488 วินาที เฉลี่ยที่ 112.65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งทำลายสถิติเดิมได้ 8.4 วินาที

ส่งท้ายเครื่องยนต์รุ่น W12
การมาถึงของเครื่องยนต์แบบ Ultra Performance Hybrid ใหม่กับพละกำลังกว่า 782 แรงม้า แรงบิด 1,000 นิวตันเมตร ถือเป็นการประกาศสิ้นสุดการผลิตเครื่องยนต์รุ่น W12 ณ โรงงาน เมืองครูว์อย่างเป็นทางการ และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเครื่องยนต์รุ่นW12 ในตำนาน
 
เบนท์ลีย์ได้เปิดรับคำสั่งจองอัครยนตรกรรมรุ่นลิมิเต็ด ‘Speed Edition 12’ จำนวนจำกัดเพียง 120 คันสำหรับรุ่น Bentayga, Continental GT, Continental GT Convertible และ Flying Spur โดยมีคุณสมบัติพิเศษอย่าง ตราสัญลักษณ์ Edition 12 บนกาบบันได เบาะโดยสาร คอลโซลหน้า และแผ่นป้ายหมายเลขเครื่องยนต์ ผู้ครอบครองยังได้รับโมเดลจำลองเครื่องยนต์รุ่น W12 ขนาดย่อส่วนเพื่อเป็นที่ระลึกอีกด้วย

เครื่องยนต์รุ่น W12 ยังมีบทบาทสำคัญในการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอัครยนตรกรรม “Coachbuilt by Mulliner” ด้วยการเปิดตัวรุ่น Bacalar แกรนด์ทัวเรอร์แบบ 2 ประตูที่ผลิตขึ้นเพียง 12 คันกับขุมพลังเครื่องยนต์รุ่น W12 พละกำลัง 650 แรงม้า และรุ่น Batur สุดยอดแกรนด์ทัวเรอร์รุ่นพิเศษที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์รุ่น W12 ที่ผลิตขึ้นเพียง 18 คัน สำหรับแบบคูเป้ และ 16 คัน สำหรับรุ่นเปิดประทุน ซึ่งอัครยนตรกรรมรุ่นพิเศษนี้จะรังสรรค์ขึ้นในแบบเฉพาะตัวตามความต้องการของผู้ครอบครอง และแต่ละคันจะขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์รุ่น W12 พละกำลัง 740 แรงม้า แรงบิด 738 ปอนด์-ฟุต

อัครยนตรกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์รุ่น W12 กว่า 100,000 คันจะยังคงส่งมอบสมรรถนะอันยอดเยี่ยมให้แก่ผู้ครอบครองทั่วโลก ขุมพลังเครื่องยนต์รุ่น W12 จึงถือเป็นเครื่องยนต์ขนาด 12 สูบ ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุคปัจจุบัน
 
ตลอดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์และการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทำให้ขุมพลังดังกล่าวมีพละกำลังเพิ่มขึ้นกว่า 34% และแรงบิดเพิ่มขึ้น 54% พร้อมกันนั้นยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้อีก 25% เครื่องยนต์รุ่น W12 จึงมีบทบาทสำคัญและจะถูกจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของเบนท์ลีย์ตลอดไป
 
เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ร่วมจัดแปลอักษรส่งท้ายเครื่องยนต์ W12 พร้อมจัดพิธีอำลาสุดยอดขุมพลังในตำนานอย่างเป็นทางการ
 
เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ร่วมจัดแปลอักษรส่งท้ายเครื่องยนต์ W12 พร้อมจัดพิธีอำลาสุดยอดขุมพลังในตำนานอย่างเป็นทางการ
 
เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ร่วมจัดแปลอักษรส่งท้ายเครื่องยนต์ W12 พร้อมจัดพิธีอำลาสุดยอดขุมพลังในตำนานอย่างเป็นทางการ

เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ร่วมจัดแปลอักษรส่งท้ายเครื่องยนต์ W12 พร้อมจัดพิธีอำลาสุดยอดขุมพลังในตำนานอย่างเป็นทางการ

 

เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ร่วมจัดแปลอักษรส่งท้ายเครื่องยนต์ W12 พร้อมจัดพิธีอำลาสุดยอดขุมพลังในตำนานอย่างเป็นทางการ

 

เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ร่วมจัดแปลอักษรส่งท้ายเครื่องยนต์ W12 พร้อมจัดพิธีอำลาสุดยอดขุมพลังในตำนานอย่างเป็นทางการ

(Crewe, 23 July 2024) Bentley Motors is celebrating production of the last hand-built, high performance 12-cylinder engine at the company’s UK headquarters in Crewe. It concludes a pivotal chapter in Bentley’s history, as the last W12-powered Bentayga, Continental GT and Flying Spur cars roll off the production line at the company’s Dream Factory.
 
• Two decades of iconic W12 engine celebrated at Crewe 
• Over 100,000 W12 engines hand-built at Dream Factory
• Most successful 12-cylinder engine of the modern era 
• Landmark decision to end production in line with Bentley’s move to be leaders in sustainable luxury mobility
• Brand’s industry-leading Beyond100 strategy showcases future led by new Ultra High Performance Hybrid powertrain
• Bentley colleagues celebrate final W12 at commemorative event
 
More than 100,000 W12s have been produced since the engine was introduced in the original Continental GT in 2003. The milestone decision to cease production is in line with Bentley’s ground-breaking Beyond100 strategy, which will see the company become a global leader in sustainable luxury mobility.     

To mark this special occasion, a commemorative lunch for the W12 assembly and R&D teams was held at Bentley’s Heritage Garage in Crewe. Guests then gathered to form part of a W12 portrait photograph in the Pyms Lane Plaza. Assembly colleagues were also presented with the gift of a commemorative W12 engine piston to cherish the moment.

Andreas Lehe, Member of the Board for Manufacturing at Bentley Motors, said:    
“The W12 has played such an important role in the history of Bentley that it was only right for us to celebrate the engine’s retirement with those linked to this powerplant. The engine’s introduction helped change the face of the company almost overnight and so will go down in history as a true game changer and we should feel very proud to have designed, developed and manufactured such an icon in Britain for such a long period of time.”      

The 6.0-litre twin-turbo W12 – the most successful 12-cylinder engine of the modern era - will be replaced with an all-new, performance-focused powertrain to mark the start of a new era for the company. That Ultra High Performance Hybrid will combine a powerful V8 combustion engine with advanced battery technology. ‘Electrocharging’ uses a potent hybrid system and builds further on Bentley’s existing petrol-electric powertrains.     

Producing the highest ever output offered in any Bentley, the engine will drive a new generation of the most dynamic, responsive and efficient supercars the company has ever built. Every model in the Bentley range will become available with the new electrified powertrain. The unit develops even more power than the retiring W12, combined with a lowly WLTP drive cycle CO2 figure of just 50 g/km.    

Dr. Matthias Rabe, Member of the Board for R&D at Bentley Motors, added:
“The W12 has propelled our cars and business forward at an exceptional speed and will go down as one of the most important innovations in our illustrious history. Today marks the end of a development journey that our R&D and manufacturing colleagues over the years should be extremely proud of. Not least in the conceptualisation, but also the continued progress with regards to power and performance optimisation, while at the same time improving both emissions and refinement.”

 

 



ชื่อ
เบอร์โทรศัพท์
อีเมล
หัวข้อ
รายละเอียด




อยู่ดี / Lifestyle

‘ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่’ ไมเนอร์เชนจ์ เตรียมเปิดจองสิทธิ์และรับข้อเสนอพิเศษก่อนใคร วันที่ 10 ก.ย. 2567 article
เบนท์ลีย์ แบงค็อก ชวนสัมผัสประสบการณ์ ‘It’s Your Bentley Drive’ ในงาน ‘AAS Driving Experience’ 11-16 กันยายนนี้ article
3 เหตุผล ที่ควรเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ Speed 400 และ Scrambler 400 X
"ฮอนด้า วันเมคเรซ" ดวลเรซ 5-6 ดุเดือด
CHANGAN ฉลองความสำเร็จครบรอบ 1 ปี ในตลาดรถไฟฟ้าไทย CHANGAN Celebrates Its 1st Anniversary in the Thai EV Market
จับตา! บัดเจ็ตโฟนสายแกร่งแห่งปี "realme Note 60" ตอบโจทย์ทุกการใช้งานด้วยบอดี้ ArmorShell™
เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส คว้ารางวัล 'Best of the Best' สาขา Best Sedan และ Best Interior
EXIM BANK จับมือพันธมิตรสนับสนุนธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืน
Toyota Hilux Revo 10 เซียนประจัญบาน 2024
อีวี มี ส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าให้ผู้ประกอบการแท็กซี่ ตั้งเป้าเพิ่มจำนวน EV ในระบบขนส่งสาธารณะไทย หนุนสังคมคาร์บอนต่ำยั่งยืน
เอช เซม มอเตอร์ เปิดเกมรุกปี มังกร รับผู้ร่วมลงทุน เปิดสถานีเปลี่ยนแบตฯ ในกรุงเทพและปริมณฑล
“ICONSIAM VINTAGE CAR SHOW” เชิญชมรถโบราณ รถคลาสสิค เรือ
เปิดจองพื้นที่ MOTOR EXPO 2023 สุดคึกคัก
เปิดจองพื้นที่ MOTOR EXPO 2023 สุดคึกคัก
กลุ่มบริษัทบีทีเอส เดินหน้าส่งเสริมความเท่าเทียม และการยอมรับความหลากหลายภายในองค์กร เนื่องในวันสตรีสากล 2566 (International Women's Day 2023)
“Satin Plus x หมอช้าง : Lucky Me Lucky Life 2023” ตั้งเป้ายอดขายโต 40%
ซูเปอร์สปอร์ตร่วมส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีและสุขภาพแข็งแรง สนับสนุนงานวิ่ง TAB RUN เพื่อคนตาบอด 2023
"เอ็นโซ่ ธารวณิชกุล" แชมป์โลกโกคาร์ทชาวไทย ฉายแววระดับโลก "เรดบูล" เซ็นร่วมทีมปูเส้นทางสู่ "ฟอร์มูล่าวัน"
IWG จับมือ BDO รับเทรนด์การทำงานแบบไฮบริด
รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เอช เซม ได้รับ ใบรับรองมาตรฐานระดับสากล
เอคเซนเชอร์ เปิด “ศูนย์ปฏิบัติการอัจฉริยะเพื่อธุรกิจ” สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เปิดตัว Continental GT และ GTC S นิยามใหม่แห่งความโฉบเฉี่ยว
โตชิบาผลิตอุปกรณ์ LiDAR ขนาดเล็กที่สุดในโลก - พัฒนาศักยภาพ “ดวงตา” เพื่อยานยนต์ไร้คนขับ
เอช เซม ขานรับ ตลาดเช่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าพุ่งสูงขึ้น ส่งอีก 2 รุ่น ลงตลาด เริ่มต้นเบาๆ แค่ 95 บาทต่อวัน
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ส่งมอบ “The new EQS” ให้ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ 4 แห่ง ตอบรับกระแสความสนใจในยานยนต์ไฟฟ้าระดับลักชัวรีรุ่นใหม่ พร้อมย้ำความมุ่งมั่นสู่อนาคต
โครงการปลอดภัยและยุติธรรม UN WOMEN กระตุ้นเอกชนออกนโยบายต่อต้านความรุนแรง
ธปท. สมาคมธนาคารไทย และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ร่วมเปิดตัวการให้บริการ dStatement
บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ประกาศความพร้อม ยกขบวนกองทัพรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 20 รุ่นร่วมจัดแสดง-คาดเงินหมุนเวียน 3 หมื่นล้านบาท
“กรุงไทย-สจล.”เปิดตัว KMITL UApp ยกระดับสู่มหาวิทยาลัยอัจฉริยะผ่าน Krungthai Digital Platform
“เรียล สมาร์ท” Real Smart สยายปีกเสริมแกร่ง
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เผยผลประกอบการปี 64 ย้ำดีมานด์ยังแข็งแกร่ง จากยอดขายรถยนต์ไฮเอนด์และรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เติบโตขึ้น
เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เร่งขับเคลื่อนแผนกลยุทธ์ ‘Beyond100’ เตรียมเปิดตัวอัครยนตรกรรมไฟฟ้า 5 รุ่นใหม่ ปี 2025
ทีมแข่ง Dynavolt Triumph ต้อนรับนักบิดหนุ่ม Hannes Soomer เพื่อเตรียมลุยรายการ World Supersport Championship ปี 2022
“SKILL DRIVING JUNIOR” ร่วมมือ “THE MALL” จัดการเรียนรู้ ฝึกวินัยจราจรให้เด็ก และเยาวชน
“กรุงไทย” ปิดบิ๊กดีล! ผนึก“เอคเซนเชอร์” ตั้งบริษัทร่วมทุน สร้าง“Digital Talents” รองรับธุรกิจดิจิทัลทั่วโลก
EMV Contactless (Europay Mastercard and Visa) เปิดใช้แล้ว
เบนท์ลีย์ มอเตอรส์เผย ครบ 1 ศตวรรษ แห่งการส่งมอบยนตรกรรมคันแรกแก่ลูกค้าคนพิเศษ
Empowering Tech Tourism
เบนท์ลีย์ มอเตอร์สฉลองยอดการผลิตอัครยนตรกรรมหรูคันที่ 200,000
เมอร์เซเดส-เบนซ์ จัดโปรแรงฉลองตรุษจีนด้วยข้อเสนอสุดเร้าใจ
เอช เซม “Flash Sale”
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ฉลองครบรอบ 60 ปี เพื่อสังคมไทย
Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium
“อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง” แชร์กลยุทธ์ปี 64 มุ่งช่วยผู้ประกอบการไทย
เนทติเซนท์ จับมือ “หัวเว่ย คลาวด์” ผนึก 2 ผู้นำเทคโนโลยีครั้งสำคัญ
ดาต้าเซ็นเตอร์เทรนด์ใหม่ในไทย
เปลี่ยนขยะพลาสติกเป็นพลังงาน กับ “โรงแรมไฮโดรเจน” แห่งแรกของโลก
ใช้ประโยชน์จากคลังข้อมูลการค้า-ระบบให้คำปรึกษาออนไลน์
ปลดล็อคการค้าอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนสอดรับวิถี “New Normal”
แม็คโครจับมือผู้ผลิตถุงขยะแชมเปี้ยน จุดพลุแคมเปญ “แยกขยะ” ครั้งใหญ่
GS Battery เปิดตัวคอลเซ็นเตอร์ GS PROMPT (พร้อม) 1380
"ลมหายใจไร้มลทิน" มอบรางวัลเยาวชน ชนะการประกวดปี 2562
GPI โชว์ความพร้อมจัดงาน The 2nd Yangon International Motor Show 2020
HSEM ก้าวสู่การตลาดแบบดิจิตอล
ของถูกและดีมีอยู่จริง!
เพชรบุรีกับพลังงานสะอาด จากเอช เซม มอเตอร์
โครงการ “ยิ่งให้...ยิ่งได้” ปีที่ 2
Jikkiburn คว้าแชมป์อย่างสมศักดิ์ศรี นัดปิดฤดูกาล GPeRacing2019
GP eRacing ส่งนักแข่งสู้ศึก FIA MOTORSPORT GAMES ที่อิตาลี
กรุงไทยโชว์เทคโนโลยีล้ำสมัย ในงาน Digital Thailand Big Bang 2019
DigitalThailandBigBang2019-Lazada
หุ่นยนต์ขนถ่ายสินค้า ตัวช่วยอัจฉริยะตอบโจทย์อุตสาหกรรมโลจิสติกส์
SACICT สานต่องาน “SACICT Mobile Gallery 2019” ครั้งที่ 3
Häfele Kitchen Design Award 2019
MQDC อวดโฉมหุ่นยนต์รักษาความปลอดภัย
GP eRACING ระเบิดความมันส์ สนาม 2 กลางเมืองขอนแก่น
แม็คโคร เปิด “แม็คโคร ดิจิทัล สโตร์” แห่งแรก
Creator Space (NEXT)
Zero Accident Campaign 2019
RISC ประสบความสำเร็จปลุกกระแส Well-being เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน
WATS FORUM 2019
B-Quik Expo 2019 สุดมันส์ดึง GP eRacing ร่วม
“สำนักงาน กปร.” เชื่อมั่น “SPIRIT 4x4”
TOYOTA HILUX REVO 10 เซียนประจัญบาน 2019
GPX ‘Demon’ ซีรีส์เรือธง กับ 5 ปีแห่งความสำเร็จ
'เอช เซม มอเตอร์' บุกเมืองมรกตแห่งอันดามัน
dtac x Free Fire ปลุกพลังสร้างตำนานเกมเมอร์
กลยุทธ์พัฒนานวัตกรรมธุรกิจด้วยแนวคิดเชิงออกแบบ
“รถโบราณ” ร่วมฉลองฤดูเก็บองุ่นไร่กราน-มอนเต
'IAM BANGKOK 2019' เริ่มแล้ว
'IAM BANGKOK 2019' โชว์รถแต่งหลากสไตล์แน่น
“รถโบราณ” ยกขบวนพาเหรดร่วมงาน “เขาวัง”
BEM แนะนำวิธีปฏิบัติ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินบนทางด่วน
เอช เซม มอเตอร์ มั่นใจขึ้นแท่นผู้นำ รับปีหมูทอง
มิชลินเปิดตัวสุดยอดยางบิ๊กไบค์ สปอร์ตทัวริ่ง โฉมใหม่
“โตไป…ขับเป็น” ปลูกฝังวินัยจราจรให้เยาวชน
“ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์” พาตะลุยเมืองฟาโร โปรตุเกส
ภูมิทัศน์อุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย ปี 2561
เทเลนอร์เผย 7 เทรนด์เทคโนโลยีมาแรงปี 2562
วสท. แนะวิธีปฏิบัติเมื่อ "รถเสียบนทางด่วน" หรือ "ทางหลวง"
พีไอเอ็ม ทุ่ม 50 ล้าน เปิดศูนย์นวัตกรรมหุ่นยนต์ฯ
เมื่อทุกสิ่งเชื่อมต่อด้วยอินเทอร์เน็ต
Honda คาดวางขายรถยนต์ไฟฟ้า 2 รุ่น ภายในปี 2018
กูเกิลโฉมใหม่..ท่องโลกได้เสมือนจริง
แอร์ประหยัดไฟลดโลกร้อน
Smart Jacket
หูฟังแปลภาษา...งานนี้ล่ามตกงานแน่
รถยนต์ไร้คนขับ
เตาย่างบาบีคิวกระเป๋าหิ้วพลังแสงอาทิตย์



email : iconminfo@gmail.com / Copyright © 2016 All Rights Reserved.
IconM