เชลล์ เฮลิกส์ อัลตร้าตอกย้ำความเป็นผู้นำเทคโนโลยีด้วยมาตรฐานใหม่
2025 API SQ ปลดปล่อยพลังที่ซ่อนอยู่ภายใน พร้อมกันทั่วโลกวันนี้
กรุงเทพฯ – 31 มีนาคม 2568 – เชลล์ เฮลิกส์ อัลตร้า (Shell Helix Ultra) พร้อมแล้วกับมาตรฐานใหม่ 2025 API SQ อีกครั้งที่ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีมาตรฐานระดับโลก พร้อมยกระดับการปกป้องและเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์ที่เหนือกว่าเดิม²
เชลล์ เฮลิกส์ อัลตร้า น้ำมันเครื่องเกรดพรีเมียมที่ผู้ขับขี่ทั่วโลกให้ความไว้วางใจ พร้อมมอบพลังขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นสำหรับเครื่องยนต์ในปัจจุบัน¹ ด้วยการเป็นหนึ่งในน้ำมันเครื่องกลุ่มแรกที่ผ่านมาตรฐานขั้นสูง 2025 API SQ เชลล์ เฮลิกส์ อัลตร้า ได้รับการพัฒนาเพื่อส่งมอบประสิทธิภาพและการปกป้องสมรรถนะของเครื่องยนต์ขั้นสูงสุด เนื่องจากเครื่องยนต์ยุคสมัยนี้มีประสิทธิภาพสูง จึงต้องการน้ำมันเครื่องที่ช่วยให้เครื่องยนต์รักษากำลังเอาไว้ และช่วยตอบสนองการขับขี่ได้ยาวนานยิ่งขึ้น³
เชลล์ เฮลิกส์ อัลตร้า ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อคงประสิทธิภาพสูงสุดของเครื่องยนต์ที่ 100% ได้ยาวนานขึ้น ถึงแม้จะขับขี่เต็มกำลังเป็นเวลานาน¹ พร้อมปกป้องเครื่องยนต์จากปัญหาที่พบได้บ่อย เช่น ปัญหาการจุดระเบิดก่อนเวลาในรอบต่ำ (Low-Speed Pre-Ignition: LSPI) และสภาวะแรงกดดันและอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น4 โดยเฉพาะในเครื่องยนต์สมรรถนะสูงที่ใช้ระบบเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จแบบฉีดตรงในกระบอกสูบ (Turbocharged Gasoline Direct Injection: TGDI) ด้วย เชลล์ เฮลิกส์ อัลตร้า ผู้ขับขี่จะสัมผัสได้ถึงพลังการขับขี่ที่เหนือกว่า แม้ต้องเผชิญสภาวะการขับขี่ที่ท้าทายต่างๆ5
ด้วยเอกสิทธิ์พิเศษเฉพาะของเชลล์ “เทคโนโลยีเพียวพลัส” ซึ่งผลิตจากการเปลี่ยนก๊าซธรรมชาติให้เป็นน้ำมันพื้นฐานที่มีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5% 6 ทำให้เชลล์ เฮลิกส์ อัลตร้า สามารถปลดล็อกพลังสูงสุดของเครื่องยนต์ได้อย่างเต็มที่และยาวนานขึ้น¹ โดยเพิ่มกำลังเครื่องยนต์ได้สูงสุด 1.8%¹ ยกระดับการตอบสนองได้มากถึง 3.4%¹ และมอบประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิงที่เหนือกว่าถึง 4%7 เชลล์ฉลองก้าวสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีล่าสุดนี้ ด้วยการเชิญพันธมิตรทางธุรกิจชั้นนำระดับโลกกว่า 100 ราย จาก Shell Helix Champions Club มาร่วมประสบการณ์สุดพิเศษในการแข่งขันรถฟอร์มูล่าวัน รายการอาบูดาบีกรังด์ปรีซ์ เพื่อให้พันธมิตรได้สัมผัสถึงความมุ่งมั่นของเชลล์ในการขับเคลื่อนนวัตกรรมและพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องระดับพรีเมียมอย่างต่อเนื่อง
นายเจสัน หว่อง รองประธานบริหารธุรกิจน้ำมันหล่อลื่น บริษัท เชลล์ จำกัด (Shell plc.) กล่าวว่า
“เชลล์ เฮลิกส์ อัลตร้า คือ แบรนด์น้ำมันเครื่องสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลอันดับ 1 ของโลก8 และวันนี้เรายกระดับผลิตภัณฑ์ของเราไปอีกขั้นกับผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ได้รับมาตรฐาน 2025 API SQ ความสำเร็จนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเรา ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปลดล็อคดึงพลังสูงสุดจากเครื่องยนต์ได้มากขึ้น1 พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้ดียิ่งขึ้น7”
ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป ผู้ขับขี่ทั่วโลกจะได้สัมผัสกับพลังสูงสุดของเชลล์ เฮลิกส์ อัลตร้า ใหม่
ซึ่งได้รับการพัฒนาให้ตรงหรือเหนือกว่ามาตรฐานล่าสุดของอุตสาหกรรม9
นับจากปี 1950 เชลล์เป็นพันธมิตรระดับพรีเมียมของเฟอร์รารี่ในการพัฒนาเทคโนโลยีและความเป็นเลิศ
มาอย่างต่อเนื่อง เชลล์ เฮลิกส์ อัลตร้า คือน้ำมันเครื่องที่เฟอร์รารี่เลือกใช้ทั้งสนามแข่งขันและการใช้งาน
บนท้องถนน เครื่องยนต์เฟอร์รารี่ทุกเครื่องที่ผลิตจากโรงงานที่เมืองมาราเนลโล (Maranello) ประเทศอิตาลี ใช้น้ำมันเครื่องเชลล์ เฮลิกส์ อัลตร้า ที่มีเทคโนโลยีเพียวพลัส ทีมนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของเชลล์และวิศวกรระดับโลกจากทีมแข่งเฟอร์รารี่ ยังคงเดินหน้าร่วมมือพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบสมรรถนะสูงสุดในการปกป้องเครื่องยนต์และเพิ่มพลังขับเคลื่อนที่เหนือกว่าให้แก่ผู้ขับขี่ทุกคน
มาตรฐาน API SQ คืออะไร
มาตรฐาน API SQ ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของเครื่องยนต์ยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จแบบฉีดตรงในกระบอกสูบ (TGDI) เมื่อเทียบกับมาตรฐาน API SP ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน น้ำมันเครื่องที่ผ่านมาตรฐาน
API SQ จะช่วยลดปัญหาการจุดระเบิดก่อนเวลาในรอบต่ำ (LSPI) ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น มอบการปกป้องเครื่องยนต์จากการสึกหรอที่ดียิ่งขึ้น ทนต่ออุณหภูมิสูงได้ดียิ่งขึ้น และรักษาคุณสมบัติการหล่อลื่นในอุณหภูมิต่ำได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้ ยังมีการทดสอบเพิ่มเติมกับน้ำมันเครื่องที่ผ่านการใช้งาน เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องยนต์จะได้รับการปกป้อง
เต็มประสิทธิภาพในระยะยาว เชลล์ยืนยันว่า ผลิตภัณฑ์ เชลล์ เฮลิกส์ อัลตร้า ผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน API SQ ครบถ้วนทุกขั้นตอน ในทุกระดับความหนืด9
ข้อมูลอ้างอิง
1.อ้างอิงผลการทดสอบระบบส่งกำลังโดยองค์กรอิสระภายนอกในปี 2024 โดยใช้น้ำมันเครื่อง Shell Helix Ultra ECT 0W-30
2.อ้างอิงผลการทดสอบระบบส่งกำลังที่จัดทำโดยองค์กรอิสระภายนอกในปี 2024 โดยใช้น้ำมันเครื่อง Shell Helix Ultra ECT 0W-30 และผลการทดสอบเครื่องยนต์ API Seq. IVB เปรียบเทียบกับข้อกำหนด API SQ
3.อ้างอิงผลการทดสอบระบบส่งกำลังจากองค์กรอิสระภายนอกในปี 2024 โดยใช้น้ำมันเครื่อง Shell Helix Ultra ECT 0W-30 และผลการทดสอบเครื่องยนต์ API Seq. IIIH เปรียบเทียบกับข้อกำหนด API SQ
4.อ้างอิงผลการทดสอบเครื่องยนต์ API Seq. IX เปรียบเทียบกับข้อกำหนด API SQ
5. อ้างอิงผลการทดสอบภาคสนามระยะทาง 200,000 กม. โดยองค์กรอิสระภายนอกระหว่างปี 2020-2023 โดยใช้น้ำมันเครื่องในกลุ่ม Shell Helix Ultra 0W
6.อ้างอิงจากปริมาณไฮโดรคาร์บอนประเภทพาราฟินิก และระดับไอโซ-พาราฟินที่สูงกว่าอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับน้ำมันพื้นฐาน Group II และ Group III ทั่วไป
7. อ้างอิงผลการทดสอบเครื่องยนต์ API Sequence VIE เปรียบเทียบกับน้ำมันมาตรฐานอุตสาหกรรม โดยใช้น้ำมันเครื่อง
Shell Helix Ultra ECT C6 0W-20
8. อ้างอิงข้อมูลส่วนแบ่งตลาดเชิงปริมาณของแบรนด์ปี 2021-2024 จากฐานข้อมูล GfK Retail Audit ใน Shell Insights Hub ครอบคลุมประเทศ: จีน อินโดนีเซีย ไทย และอียิปต์
9. อ้างอิงผลการทดสอบเครื่องยนต์ API SQ เปรียบเทียบกับข้อกำหนด API SQ โดยใช้น้ำมันเครื่องในกลุ่ม Shell Helix Ultra
