สจล. ลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นของประชาชนใน 4 ชุมชนริมน้ำเขตบางซื่อ
ในโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงนำร่อง ระยะทางรวมสองฝั่ง 14 กิโลเมตร
ทีมการมีส่วนร่วม โครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา (Chaophraya For All) โดยสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ลงพื้นที่เขตบางซื่อเพื่อสำรวจลักษณะทางกายภาพ รับฟังปัญหาและความต้องการของชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ชุมชนเชิงสะพานพิบูล (ฝั่งซ้าย) ชุมชนวัดโพ ชุมชนวัดสร้อยทองและชุมชนราชทรัพย์
ต่างแสดงป้ายสรุปข้อคิดเห็น จากการจัดประชุม Focus groups รับฟังความคิดจากชุมชน เพื่อนำข้อมูลไปวิเคราะห์และออกแบบการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงนำร่อง ระยะทางรวมสองฝั่ง 14 กิโลเมตร
สภาพแวดล้อมของทุกชุมชนมีการสัญจรทางรถและทางเรือที่เข้าถึงลำบาก มีเพียงทางเล็กๆ สำหรับเดินหรือรถจักรยานยนต์เท่านั้น สำหรับบ้านใดที่มีรถยนต์ต้องจอดรถไว้นอกชุมชนซึ่งต้องเสียค่าเช่ารายเดือน ส่วนพื้นที่ติดริมน้ำนั้นมีเขื่อนกั้นสูงจนบดบังชั้นแรกของบ้าน ซึ้งบังทิศทางลมและปิดกั้นการมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยา อีกทั้งยังมีน้ำรั่วซึมจากเขื่อนเข้ามาท่วมขังใต้ถุนบ้านจนเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงจำนวนมาก
ด้านวิถีชุมชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพค้าขายและทำงานนอกบ้าน ส่วนรอบๆ ชุมชนมีวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่เป็นเอกลักษณ์หลายแห่ง เช่น ต้นโพซึ่งเป็นที่มาของชื่อชุมชน สถานีตำรวจบางโพซึ่งเป็นเรือนปั้นหยาอายุเกือบ 100 ปี ซากสิ่งปลูกสร้างที่ถูกคลุมด้วยรากไทรบริเวณวัดญวน เป็นต้น
ดังนั้นสิ่งที่ชุมชนต้องการคือ การระบายน้ำออกจากชุมชนเพื่อกำจัดน้ำเน่าเสียและปัญหายุงชุกชุม รวมถึงต้องการให้ลดความสูงของเขื่อนลงเพื่อเปิดทางรับลมและเปิดมุมมองให้ชุมชนเห็นแม่น้ำเจ้าพระยา
นอกจากนี้ยังต้องการพื้นที่สาธารณะด้วย เพราะปัจจุบันไม่มีที่ออกกำลังกายและพื้นที่ว่างสำหรับทำกิจกรรมของเยาวชน ทั้งนี้ที่ดินส่วนใหญ่ชุมชนเช่าเอกชนหรือวัดอาศัยอยู่ จึงอาจเป็นเรื่องยากที่จะพัฒนาพื้นที่ในชุมชนเป็นที่สาธารณะ